หุ้นเอเชียร่วง หลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลง

โดย Peter Nurse

Investing.com – ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงลงอย่างรวดเร็วในวันจันทร์โดยนักลงทุนซื้อขายด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากความกังวลด้านพลังงานในภูมิภาคนี้ และซื้อขายก่อนหน้ารายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อาจชี้ให้เห็นถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเวลา 03:40 น. ET (0740 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายลดลง 1.3% CAC 40 ในฝรั่งเศสลดลง 1.5% และ FTSE 100 สหราชอาณาจักรลดลง 0.9%

น้ำเสียงที่เป็นบวกของสัปดาห์ที่แล้วได้หายไปในวันจันทร์เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยการเปิดเผยชุดรายงาน CPI ล่าสุดจากหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ

ตัวเลข CPI ของฝรั่งเศส เยอรมันนี และ สเปน ทั้งหมดคาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นการเร่งความเร็วตัวเลขของเดือนที่แล้ว โดยมองว่าต้นทุนพลังงานเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

ประกอบกับการเผยแพร่ รายงานการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ที่แข็งแกร่งในวันศุกร์ ซึ่งผลการรายงานนี้จะหนุนเฟดในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยชี้ไปที่การปรับขึ้นอีก 75 จุดพื้นฐาน ซึ่งน่าจะมีผลกระทบต่อการเติบโตทั่วโลก

นอกจากนี้ การจับตามองในวันจันทร์ยังเป็นข่าวของท่อส่งก๊าซเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดที่บรรทุกก๊าซรัสเซียไปยังเยอรมนีได้เริ่มดำเนินการซ่อมบำรุงประจำปีแล้ว โดยคาดว่าจะหยุดการส่งก๊าซเป็นเวลาสิบวัน

ความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่ารัสเซียอาจเลือกที่จะขยายเวลาการปิดระบบนี้

เนื่องจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ได้บังคับใช้หลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ก๊าซที่ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับข่าวขององค์กร บริษัท Danske Bank (CSE:DANSKE) หุ้นร่วง 5.7% หลังจากที่ผู้ให้กู้ชาวเดนมาร์กปรับลดแนวโน้มกำไรสุทธิทั้งปีในวันอาทิตย์ โดยได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและสภาวะตลาดการเงินที่ไม่เอื้ออำนวย

หุ้น EDF (EPA:EDF) เพิ่มขึ้น 1.4% หลังจากรัฐบาลฝรั่งเศสซึ่งมีสัดส่วนการถือหุ้น 84% ประกาศเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะโอนกรรมสิทธิ์การไฟฟ้าที่มีภาระหนี้ให้เป็นของรัฐโดยสมบูรณ์

ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันจันทร์เนื่องจากความกังวลเรื่องโควิด19 ในเซี่ยงไฮ้ทำให้เกิดความกลัวต่อการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ และกระทบต่อความต้องการน้ำมันจากผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก

สายพันธุ์ย่อย BA.5 ของโอไมครอน ที่สามารถแพร่เชื้อได้เร็วกว่าทุกสายพันธุ์ถูกค้นพบในศูนย์กลางการค้าของจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระตุ้นให้มีการตรวจคัดกรองจำนวนมากอีกครั้งตั้งแต่วันอังคารถึงวันพฤหัสบดี

แม้ว่าทางการจะกระตือรือร้นที่จะจำกัดขอบเขตใด ๆ เพื่อลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก แต่ข่าวนี้ทำให้หวนนึกถึงการล็อกดาวน์ที่ยืดเยื้อเมื่อต้นปี ซึ่งทำให้ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกหยุดชะงักและกระทบกับการค้าระหว่างประเทศ

ในเวลา 03:40 น. ET ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายลดลง 2.2% เป็น 102.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะที่ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 1.9% เป็น 104.94 ดอลลาร์

สัญญาทั้งสองฉบับปรับลดลงทุกสัปดาห์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากตลาดกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกจะจุดชนวนให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและความต้องการน้ำมันลดลง

นอกจากนี้ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.4% เป็น 1,735.10/oz และ EUR/USD ซื้อขายลดลง 0.6% เป็น 1.0121

ขอบคุณแหล่งที่มา : th.investing.com