คลองปานามา มากำลังเผชิญกับภัยแล้งที่สุดในรอบ 70 ปี ทำให้ทางการต้องสั่งให้เรือขนส่งสินค้าบรรทุกสินค้าให้น้อยลง เพื่อให้ผ่านคลองไปได้อย่างปลอดภัย แหล่งน้ำสำคัญที่ใช้ในการเติมน้ำเข้าไปกำลังลดลง ภัยแล้งนี้สร้า้งความกังวลให้กับหลายฝ่าย

คลองปานามา เผชิญภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี

คลองปานามากำลังเผชิญกับสถานการณ์แห้งแล้งที่สุดในรอบ 70 ปี โดยระดับที่ลดลงอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้เรือขนส่งสินค้าต้องลดปริมาณสินค้าที่บรรทุกลง เพื่อให้สามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย

สถาบันอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาแห่งปานามารายงานว่า ประเทศส่วนใหญ่ในแถบลาตินอเมริกา ซึ่งรวมถึงปานามา เผชิญกับฤดูร้อนที่ยาวนาน และนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ มีฝนตกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อันเนื่องมาจากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญ่ด้านพยากรณ์อากาศคาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำฝนในปานามาจะอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ขณะที่ปัญหาภัยแล้งคาดการณ์ว่า จะเกิดขึ้นยาวนานไปจนถึงปี 2024

ผลกระทบจากภัยแล้ง

ทั้งนี้ คลองปานามา ซึ่งมีความยาวกว่า 80 กิโลเมตร เป็นคลองที่ใช้ระบบระบายน้ำในการเพิ่มหรือลดประมาณน้ำภายใน ระหว่างการขนส่งสินค้า โดยแหล่งน้ำสำคัญที่ใช้ในการเติมน้ำเข้าไปก็คือ น้ำจากทะเลสาบกาทุน ซึ่งน้ำที่อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ส่วนใหญ่เกิดจากฝนตก

อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในทะเลสาบกาทุน ขณะนี้กำลังลดลง เนื่องจากภัยแล้ง โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ระดับน้ำในทะเลสาบดังกล่าวจะลดต่ำลงถึงสถิติต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ด้านสำนักงานคลองปานามาได้สั่งปรับลดระดับขนาดการกินน้ำลึก ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งบอกหรือกำหนดขนาดการบรรทุกเพื่อวัดความลึกของเรือ จากเดิม 15.24 เมตร มาเป็น 13.41 เมตรแทน ส่งผลทำให้เรือขนส่งสินค้าต้องบรรทุกสินค้าน้อยลง

การที่เรือบรรทุกสินค้าได้น้อยลงสร้างความเป็นกังวลให้แก่หลายฝ่าย เพราะค่าขนส่งสินค้าอาจจะเพิ่มขึ้น และส่งผลทำให้ราคาสินค้าแพงขึ้นในท้ายที่สุด

โดยมีรายงานว่า บริษัทขนส่งสินค้าบางแห่งที่ต้องใช้เส้นทางคลองปานามา ได้ปรับเพิ่มค่าขนส่งแล้ว สำหรับตู้คอนเทนเนอร์หนึ่งตู้จาก 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ประวัติคลองปานามา

ย้อนไปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 จักรพรรดิชาลส์ที่ 5 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์และกษัตริย์แห่งสเปนได้ทรงร่วมกันส่งทีมสำรวจวางแผนโครงการสร้างคลองเดินเรือที่จะตัดผ่านปานามา เพื่อสร้างความสะดวกในการสัญจรระหว่างสเปนและเปรู แต่ทีมสำรวจลงความเห็นว่าการก่อสร้างนั้นเป็นไปไม่ได้

ผ่านไปจนช่วงปี ค.ศ. 1881 บริษัทสัญชาติฝรั่งเศส นำโดยนายแฟร์ดินอง เดอ เลสเซปส์ (Ferdinand de Lesseps) ผู้ประสบความสำเร็จในการก่อสร้างคลองสุเอซ ณ ประเทศอียิปต์ ได้ระดมทุนเข้าซื้อสัมปทานโครงการคลองปานามา และเริ่มก่อสร้างขุดคลองจากระดับน้ำทะเลโดยไม่มีประตูกั้นน้ำ

เนื่องจากขาดการศึกษาสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่เพียงพอ ทำให้เกิดอุบัติเหตุดินถล่ม ปัญหาต่างๆ มากมาย อีกทั้งโรคระบาดที่เกิดขึ้นในภูมิอากาศเขตร้อน โดยเฉพาะโรคไข้เหลืองและมาลาเรีย ซึ่งได้คร่าชีวิตของคนงานเป็นจำนวนมากจนเกิดความล่าช้า เป็นเหตุให้คนงานเกิดความหวาดกลัวหนีกลับฝรั่งเศส

นายแฟร์ดินอง เดอ เลสเซปส์พยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายต้องล้มเหลวสูญเงินไปกว่า 9,000 ล้านบาท มีคนงานเสียชีวิตกว่า 20,000 คน และโครงการหยุดชะงักในปี ค.ศ. 1894

ปี ค.ศ. 1903 สหรัฐอเมริกาเล็งเห็นความสำคัญในการขุดคลองปานามา จึงรับช่วงต่อจากฝรั่งเศสและเข้าดำเนินการขุดในปี ค.ศ. 1904 โดยเริ่มจากการแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่เป็นอุปสรรคในการก่อสร้างก่อนหน้านี้ และดำเนินการขุดแบบมีประตูกั้นน้ำเป็นระยะๆ จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1914

คลองปานามาได้เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1914 โดยเรือขนส่งสินค้าลำแรกที่แล่นผ่านชื่อว่า เอ็มวี อันคอน (MV ANCON) ซึ่งเป็นการเปิดใช้งานหลังจากเปิดคลองสุเอซมาแล้ว 45 ปี และแม้การแพทย์ในช่วงการก่อสร้างโดยสหรัฐอเมริกาจะพัฒนามากขึ้น แต่ก็ยังมีการสูญเสียคนงานเป็นจำนวนกว่า 5,600 คน รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากโครงการนี้มากกว่า 25,000 คน

หลังจากนั้นได้เกิดกรณีพิพาทเเละจลาจลมากมายในประเด็นด้านความต้องการเป็นเจ้าของ กระทั่งในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1977 ได้มีการทำสนธิสัญญาระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศปานามา โดยระบุว่า จะโอนสิทธิ์การครอบครองคลองปานามาให้แก่ประเทศปานามา โดยปานามาจะต้องรับประกันความเป็นกลาง และยอมให้สหรัฐอเมริกากลับเข้ามาได้ทุกเวลา จนเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 สหรัฐอเมริกายินยอมมอบสิทธิ์บริหารให้แก่รัฐบาลปานามาอย่างสมบูรณ์

คลองปานามา

ข้อมูลน่ารู้ของคลองปานามา

ได้รับการออกแบบให้มีประตูกั้นน้ำภายในคลองเป็นช่วงๆ ตลอดระยะทาง ผิดกับคลองสุเอซที่ไม่มีประตูกั้นน้ำ ทั้งนี้เพื่อยกระดับเรือให้สูงขึ้นหรือลดต่ำลงเมื่อเรือแล่นผ่านจากปากคลองด้านหนึ่งไปออกปากคลองอีกด้านหนึ่ง

เนื่องจากความไม่เท่ากันของระดับน้ำทะเลของมหาสมุทรทั้งสองฝั่ง ซึ่งระดับน้ำทะเลเฉลี่ยฝั่งแปซิกฟิสูงกว่าฝั่งแอตแลนติกประมาณ 20 เซ็นติเมตร เพราะปัจจัยความแตกต่างด้านสภาพของมหาสมุทร เช่น ความหนาแน่นของน้ำ และภูมิอากาศ

  • มีความยาวประมาณ 77 กิโลเมตร ส่วนความกว้างน้อยที่สุด 91 เมตร ระดับความลึกน้อยที่สุด 12 เมตร ใช้เวลาเดินเรือผ่านคลองเฉลี่ย 10 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดระยะการเดินทางจากอเมริกาฝั่งตะวันตกไปฝั่งตะวันออก ที่เดิมต้องอ้อมแหลมเคปฮอร์น (Cape Horn) ทวีปอเมริกาใต้เป็นระยะทางราว 8,000 ไมล์ และใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์
  • ในหนึ่งปี มีเรือจำนวนกว่า 14,000 ลำแล่นผ่านคลองปานามา ถือเป็นเส้นทางหลักสำคัญของการเดินเรือของโลก เป็นโครงการวิศวกรรมที่ใหญ่ที่สุด และยากลำบากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
  • ค่าธรรมเนียมผ่านทางเรือของคลองปานามาคิดเป็น 3.7% ของ GDP ของประเทศปานามา หรือ 2.1 ล้านบาท โดยค่าธรรมเนียมแพงที่สุดเก็บจากเรือสำราญนอร์วีเจียนเพิร์ล (Norwegian Pearl) เป็นเงิน 11.6 ล้านบาท ในปี ค.ศ. 2010 และค่าธรรมเนียมที่น้อยที่สุดเก็บจากนายริชาร์ด ฮัลลิเบอร์ตัน (Richard Halliburton) ชายนักเดินทางชาวอเมริกันที่ว่ายน้ำผ่านคลองปานามาในปี ค.ศ. 1928 เป็นจำนวน 36 เซนต์ หรือ 166 บาทในปัจจุบัน
  • มูลค่าการก่อสร้างที่จ่ายโดยสหรัฐอเมริกาเทียบเท่ากับการสร้างเรือไททานิก 85 ลำ

การขยายคลองปานามา

ในช่วงปี ค.ศ. 2007 เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจการเดินเรือและเรือเดินสมุทรที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่าง New Panamax หรือ Post Panamax มีการเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้างส่วนขยายคลองปานามา The Third Set of Locks Project เพิ่มช่องการจราจรทางน้ำที่มีการขยายความกว้างและความลึกของเส้นทาง รวมไปถึงการก่อสร้างประตูเรือสัญจร และสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ทั้งฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก

มีการเปิดตัวในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2016 โดยเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติจีน Cosco Shipping Panama เป็นเรือลำแรกที่แล่นผ่านส่วนต่อขยายคลองปานามานี้

ถือว่าเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ ซึ่งใช้งบประมาณทั้งหมดราว 5,250 ล้านดอลลาร์ หรือ 170,000 ล้านบาท และส่วนขยายคลองปานามานี้สามารถรองรับเรือบรรทุกขนาด 14,000 TEU หรือประมาณ 3 เท่าจากเดิม นับว่าเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยพัฒนาธุรกิจการเดินเรือระดับโลก

รีวิวคลองปานามาในเมืองเก่าแก่

เมืองปานามาแบ่งออกเป็นเมืองเก่า เมืองโบราณ เมืองใหม่ และคลองปานามาที่มีชื่อเสียงที่สุด มาชมเมืองเก่าก่อน ปานามาเคยเป็นอาณานิคมแห่งที่สองของสเปน ดังนั้นรูปแบบสถาปัตยกรรมจํานวนมากยังคงรักษาสไตล์บาโรก ดังนั้นเพียงแค่ถ่ายภาพและภาพยนตร์ก็เป็นที่นิยมมาก ในเมืองเก่ามีร้านค้าสินค้าขนาดเล็กมากมาย และยังมีร้านกาแฟเล็กๆ ของอินเดียอีกด้วย มีร้านกาแฟเล็กๆ เดินเล่นที่ Lao Chen

ในตอนเย็น มาที่มุมถนนพระอาทิตย์ตกก็รู้สึกเหมือนมีไม้ เนื่องจากเจ้าของมีธุระกิจบางอย่าง เขาไม่ได้ไปเยี่ยมชมคลองเท่านั้น แต่ยังเยี่ยมชมห้องควบคุมคลอง (แต่ไม่สามารถขึ้นได้ชั่วคราว) แต่ยืนบนขั้นบันไดของคลองและรู้สึกเป็นการส่วนตัวว่าถ้าไม่มีคลองปานามาจากมหาสมุทรแปซิฟิกไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก คุณต้องวนรอบ ยังเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นสุดๆ ท่าเรือเมืองใหม่และป้ายปานามา ปานามาเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องเช็คอิน ดื่มสองแก้วที่ร้านอาหารตะวันตกข้างท่าเรือในตอนกลางคืน ท่าแปลกๆ สนุกสนาน ข้างป้าย panama ก็โรแมนติกเช่นกัน

 

เรื่องรอบโลกอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ที่มาของบทความ

 

ติดตามอ่านเรื่องรอบโลกได้ที่  bushhessle.com

สนับสนุนโดย  ufabet369